วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทที่ 10 : หญิงสาวบนแดนศักดิ์สิทธิ์

บทที่ 10 เหล่าหญิงสาวในเขตศักดิ์สิทธ์

แปล : Artza

แก้ไขและเรียบเรียง : น้องไข่ โป๊ะแตก


แม้ว่าหลินหมิงจะดูดซับความทรงจำของชิ้นส่วนจิตวิญญาณไป เขาก็ยังไม่สามารถเข้าใจการจารึกที่แสนยากเย็นนั้นได้ เพื่อให้ได้ความรู้เพิ่มเติมมาปะติปะต่อส่วนที่ขาด เขาจะต้องฝึกร่างกายและจิตวิญญาณควบคู่กันไปเพื่อที่จะได้รับความทรงจำได้อย่างเต็มที่!


วัสดุในการจารึกล้วนหมายถึงเงินทองที่เขาได้มาอย่างยากลำบาก เขาไม่อยากเสียมันแม้แต่เหรียญเดียว ขณะนี้หลินหมิงจึงไม่กล้าใช้วัสดุใดๆ เขาจึงได้แต่รวบรวมสาระที่แท้จริงจากการศึกษาของต่อไป เขาหมุนเวียนพลังงานในร่างกายของเขาและรอเวลาที่มันจะเชื่อมโยงกับความทรงจำจากชิ้นส่วนจิตวิญญาณ เขาค่อยๆผสานความเข้าใจต่างๆในใจของเขา


นี่เป็นกระบวนการที่น่าเบื่อมาก แต่ในใจหลินหมิงเขาจะได้เห็นตำรานับหมื่นๆหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่จิตวิญญาณและร่างกายของเขาค่อยๆปรับตัวและเรียบเรียงเนื้อหาให้ง่ายแก่การเข้าใจ


มันจำเป็นต้องมีแรงจิตวิญญาณมากอย่างเหลือล้น ในทุกขณะหลินหมิงใช้เวลาที่เหลือน้อยๆในการอ่านตำราชุ่ยๆ 'เทคนิคการจารึก: วิธีการเริ่มต้นบนเส้นทางการจารึก' เขาผ่อนคลายทำใจให้ปลอดโป่ง แม้ว่าตำรานี้จะอธิบายสิ่งที่เขาไม่รู้จากชิ้นส่วนจิตวิญญาณ มันก็มีบางเรื่องที่ไม่อาจเข้าใจได้ในการจารึกแห่งทวีปนภารินไหล


หลังจากหนึ่งวันเต็มของการฝึกฝน หลินหมิงปิดตำรา 'จารึกการเทคนิค: วิธีการเริ่มต้นบนเส้นทางการจารึก' ในตำราไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับเส้นไหมนภา


เส้นไหมนภาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับหลินหมิง เขาได้เห็นวัสดุหลายชนิดในเทศกาลการค้าเที่ยงธรรม แต่ไม่เคยเห็นมันนี้แม้ว่าเขาได้พบเส้นทางที่ดีของข้อมูล แม้ว่าเขาจะพบในแหล่งข้อมูลของราชอาณาจักรลิขิตฟ้าว่ามีเส้นไหมนภา แต่ปกติพวกมันถูกนำมาใช้ในการทำสายเครื่องดนตรี(หมายถึงพวกเครื่องดนตรีที่ใช้ในการต่อสู้เป็นหลักนะอาจจะใช้เพื่อความบรรเทิงบ้างเล็กน้อย พวกพิณ เครื่องสีต่างๆ)

หลินหมิงไม่แน่ใจว่ามันคือสิ่งเดียวกันหรือไม่...
เพราะความแตกต่างของภูมิประเทศและระดับการฝึกฝน วัสดุที่ระบุไว้ในอาณาจักรของพระเจ้ากับในดินแดนของเขาอาจไม่ใช่สิ่งเดียวกันแม้ว่าพวกมันจะมีชื่อเดียวกัน เส้นไหมนภาในดินแดนพระเจ้าอาจจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับเส้นไหมนภาของทวีปนภารินไหล แม้หลินหมิงจะไม่อาจใช้ชื่อค้นหาได้ แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่นรูปลักษณะและกลิ่น ถ้าสิ่งเหล่านี้เหมือนกันแล้วมันก็น่าจะเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ในใจของเขามีเพียงความทรงจำจากดินแดนของพระเจ้าของเส้นไหมนภา แต่เขายังไม่เห็นพวกมันในทวีปนภารินไหล เขาไม่สามารถตรวจสอบให้แน่ชัดถึงการมีอยู่ของมัน

หลินหมิงคิดอย่างรอบครอบเกี่ยวกับการที่เขาจะหาเส้นไหมนภาและในท้ายที่สุดก็สรุปได้ว่าเขาอาจจะสามารถหามันได้ในสำนักเจ็ดแก่นแท้


ส่วนใหญ่นักต่อสู้จะใช้ดาบเป็นอาวุธ บางครั้งอาจเป็นกระบี่หรือธนูและอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีผู้ใช้อาวุธที่หายากและมีค่าสูง อย่างเช่นพิณ!


ชื่อเสียงของสำนักเจ็ดแก่นแท้มากจากเจ็ดผู้เชี่ยวชาญแห่งหุบเขาแก่นแท้ทั้งเจ็ด แต่ชื่อของหุบเขาแก่นแท้ทั้งเจ็ดมีต้นกำเนิดมาจากผู้เชี่ยวชาญทั้งเจ็ด ซึ่งแต่ละคนใช้อาวุธต่างๆกัน หนึ่งในนั้นมีหญิงคนหนึ่งและอาวุธของเธอคือพิณ!


ดังนั้นพิณจึงเป็นหนึ่งในอาวุธที่เจ็ดผู้เชี่ยวชาญเลือกใช้ และได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของสำนักเจ็ดแก่นแท้!


แต่ความยากลำบากในการใช้มากเกินคาด จำเป็นต้องมีความสามารถที่สูงเหลือล้น ทั้งผู้ใช้ยังจะต้องมีอารมณ์ที่สงบและมีสมาธิสูง ด้วยเหตุนี้สำนักเจ็ดแก่นแท้แทบจะไร้ผู้ฝึกฝนด้วยอาวุธนี้ เมื่อเทียบกับหน่วยที่ใช้อาวุธที่นิยมมากกว่า อย่างน้อยร้อยละ 99 ของผู้ที่มาเรียนพิณจะเป็นผู้หญิงที่เข้ามาเพื่อร่ำเรียนตัวอักษรและทักษะตราสารต่างๆ พวกเขาจะไม่เน้นไปทางการต่อสู้ฆ่าฟันในศิลปะการต่อสู้มากนัก


หลินหมิงตั้งเป้าหมาย ปลายทางของเขาคือห้องโถงของหน่วยพิณที่ พวกเขาจะให้การศึกษาแก่สาธารณชน!


ในแต่ละปี สำนักเจ็ดแก่นที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นในราชอาณาจักรลิขิตฟ้า จะเลือกผู้มีพรสวรรค์สูงสุดเพื่อเป็นศิษย์เข้าสำนักเจ็ดแก่นแท้ซึ่งมักจะเป็นตระกูลที่สูงส่งเท่านั้นที่จะถูกเลือก แต่สำนักเจ็ดแก่นแท้ก็ยังให้สิทธิ์พิเศษให้กับศิษย์นอกสำนักเพื่อเข้าสู่ห้องโถงส่วนกลางที่พวกเขาก็สามารถเข้าร่วมฟังการบรรยายพื้นฐานได้
อย่างไรก็ตามการเข้าสู่ห้องโถงบรรยายสาธารณะจำเป็นต้องมีบัตรผ่านพิเศษ! 

มิฉะนั้นใครต่อใครแม้แต่สุนัขก็จะมา ดังนั้นห้องบรรยายสาธารณะจะกีดกั้นทุกคนยกเว้นผู้ถือครองบัตรผ่านพิเศษ!


สำนักเจ็ดแก่นแท้ได้วางหลักเกณฑ์สำหรับเรื่องนี้ว่าผู้จะเข้าต้องผ่านอย่างน้อยข้อหนึ่งในสามข้อต่อไปนี้ หนึ่งจะต้องมีการฝึกฝนกายภาพขั้นสาม สองเป็นตระกูลชั้นสูง หรือสามเป็นศิษย์สำนักเจ็ดแก่นแท้หรือสำนักลิขิตฟ้า หากไม่ผ่านข้อใดข้อหนึ่งในสามข้อนี้ได้จะไม่มีสิทธิพิเศษในการเข้ามาในห้องบรรยายสาธารณะ การบรรยายได้รับความนิยมอย่างมากและมีความต้องการสูง แต่เนื้อหาที่แท้จริงยังคงสงวนไว้สำหรับสาวกหลัก


ด้วยบัตรผ่านพิเศษที่หลินหมิง ยืมมาจากหลินเซี่ยวตง เพราะหลินเซี่ยวตงอยู่ในสายตระกูลแท้และมีขนาดใหญ่มากทั้งบุตรหลานและผู้อาวุโสต่างก็เป็นศิษย์ในสำนักเจ็ดแก่นแท้ หลินเซี่ยวตงจะได้มันมาก็ไม่ใช้เรื่องยากเกินไป


เมื่อไม่นานมานี้หลินหมิงไปเยี่ยมหลินเซี่ยวตง ที่ตะโกนออกมา "พี่!ข้านับถือพี่มาก!พี่จะต้องรักษาตัวเองจากความโง่เขลาให้ได้เพื่อตัวพี่เอง "(แมร่งชมหรือหลอกด่าฟะ 555 อาจเป็นสำนวนของเขาผู้แปลขอแปลตรงตัวไปนะ)


หลินเซี่ยวตงได้ชื่นชมการฝึกหนักและหาความรู้ของพี่ของเขาอย่างแท้จริง ในหัวใจของเขา เขามีความเชื่ออยู่เสมอว่าพี่ของเขาจะไปถึงระดับสูงสุดที่เป็นไปได้ของนักสู้เป็นตำนานที่รู้จักไปทั่วแผ่นดิน! แต่เทคนิคการแกะจารึกเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจทำได้ใช้แค่ความเชื่อมั่นของคนๆหนึ่ง มันจำเป็นต้องมีความถนัดเฉพาะทาง!


ถ้ามันเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นนักจารึกด้วยการใช้จ่ายเพียง 800 เหรียญทองที่จะซื้อวัสดุบางอย่างและตำราคู่เล่มนี้ 'เทคนิคการจารึก: การเริ่มต้นบนเส้นทางการจารึก' แล้วนักจารึกคงจะมีอยู่เต็มไปหมด เหมือนมด

สำหรับหลินเซี่ยวตง เพื่อให้หลินหมิงได้ศึกษาการจารึกและทำฝันให้เป็นจริง เขาไม่เพียงยอมสูญเสียเงินทั้งหมดของเขาและกลายเป็นขอทาน แต่เขายังยอมเสียเวลาอันมีค่าเพื่อช่วยเหลือ!


เพราะหลินเซี่ยวตงเป็นพี่น้องโดยสายเลือดของหลินหมิง ดังนั้นสิ่งที่หลินเซี่ยวตงทำได้คือหาผ่านบัตรมาให้ ในขณะที่เขาถือว่ามันเป็นสิ่งทีเขาควรทำ


เขาตัดสินใจว่าเขาจะพบว่าเวลาที่เหมาะสมพาหลินหมิงไปห้องโถงการแพทย์เพื่อพบแพทย์ที่มีชื่อเสียง อาจเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่รู้เกี่ยวกับหลินหมิง แต่เขารู้สึกได้ว่าสมองและจิตวิญญาณของหลินหมิงถูกรบกวน!


จากนั้นหลินหมิงก็มาถึงที่หอประชุมของสำนักเจ็ดแก่นแท้ หน่วยพิณ มันเป็นอาคารที่สง่างามสามชั้น มีพื้นที่การบรรยายกว้างขวาง


แต่ที่น่าสงสารก็คือหลินหมิงไม่รู้เลยว่า หน่วยพิณเป็นการบรรยายสาธารณะสำหรับผู้หญิง มันเป็นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง ที่ผู้ชายทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้ข้องเกี่ยว!


เหตุผลของเรื่องนี้ก็คือการที่หน่วยพิณมีศิษย์เป็นผู้หญิงทุกคน ผู้หญิงเหล่านี้ที่อยากจะศึกษาพิณมักจะมาจากครอบครัวชนชั้นสูง ในชีวิตของพวกเขาเต็มไปด้วยท่วงทำนองหวานๆของเพลงและการปรากฏตัวของพวกเขายังอยู่ในระดับสูงเหลือใจ! พวกเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้หญิงที่สวยที่สุด ผลก็คือพวกหนุ่ม ขุนนาง นักสู้ มากมายถูกล่อลวงด้วยความคิดลามกและฝันว่าพวกเขาจะได้สัมผัสแม้เพียงซักครึ่งหนึ่งในความงามเหล่านี้


อาจมีพวกหนุ่มๆอาศัยสถานะของตระกูลเพื่อที่รับบัตรผ่าน ซึ่งจะมีคนของหน่วยพิณมาสอดส่อง พวกที่มีความตั้งใจที่ไม่ดีและสกปรก พวกเขาอาจไม่ได้มาเพื่อศึกษาเป็นหลัก ดูจากแววตาของพวกเขา ที่มุ่งเน้นแต่การสังเกตความโค้งเว้าของสาวๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีต้นขาเรียวและ ... ทรวงอกโต


หลังจากการบรรยายจบ พวกเขาจะพากันไปทานอาหารในบริเวณใกล้เคียงและไปเลือกหาซื้อสินค้า! ในที่สุดความงามของหน่วยพิณก็จะเป็นที่ประจัก ความอดทนของเหล่าชายหนุ่มอาจถึงขีดจำกัด พวกเขาต้องการที่จะเยี่ยวยาหัวใจและหาอาหารสายตา ซึ่งอาจเป็นการรบกวนเหล่านักศึกษาส่วนใหญ่ เพราะเกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง ซึ่งอาจเป็นการสร้างความรำคาญที่มีพวกลามกคอยไล่ตาม! 

หน่วยพิณเริ่มที่จะป้องกันไม่ให้เหล่าชายหนุ่มใช้บัตรผ่านเข้ามาโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผู้ชายที่มีเล่ห์เหลี่ยมความอันธพาล พวกเขาไล่พวกนั้นออกไปอย่างไม่ลดละและไม่มีความเมตตา!


เมื่อหลินหมิงเข้าในห้องโถงของหน่วยพิณ แต่เวลาบรรยายยังไม่ได้เริ่มต้นและศิษย์หญิงหลายคนคุยกันเงียบๆ แลกเปลี่ยนพูดคุยทักษะพิณกับคนอื่นๆ ในห้องโถงหญิงคนหนึ่งกำลังเล่นเพลงใหม่ มันเป็นเพลงที่ว่องไวและสดใหม่ที่เต็มไปด้วยความสง่างามเป็นเสียงที่ไพเราะ มันเป็นทำนองที่ดึงดูดอยู่ในใจของคน


หลินหมิงเดินเข้ามาและสังเกต เส้นสายบนพิณไม่ใช้เส้นไหมนภาอย่างที่เขาได้คาดการณ์ไว้ แน่นอนว่าเส้นไหมนภาเป็นรายการที่มีราคาแพงและหายาก เส้นไหมนภาต้องทำให้เกิดเสียงที่รุนแรงและหวงแหน คนที่มีการฝึกฝนต่ำอาจจะได้รับบาดเจ็บพยายามได้หากเล่นดนตรีด้วยเส้นเสียงที่ทำจากเส้นไหมนภา เหล่าศิษย์นองที่เป็นดังเช่นดอกไม้เล็กและเปราะบางของหน่วยพิณคงไม่มีประสิทธิภาพที่จะใช้มันได้

สาวที่กำลังเล่นพิณเป็นคนที่อุทิศตัวเพื่อฝีมือของเธอ เธอพยายามส่งสัญญาณเตือนหลินหมิง และศิษย์หญิงสองคนที่กำลังฟังฟังท่วงทำนองสังเกตเห็นการปรากฏตัวของชายคนหนึ่ง พวกเธอขมวดคิ้วแน่น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร


ปกตินั้น มักจะมีผู้ชายบางคนที่มีความตั้งใจที่ชั่วร้ายโฉบเช่นแมลงวัน พวกเขามักทำท่าเป็นผู้ที่ชื่นชอบเสียงพิณแต่ก็ทำเพื่อจะมาใกล้ชิดเท่านั้น และหาโอกาสมองทรวงอกของศิษย์หญิง ' เป็นผู้ชายประเภทที่ทำให้นักเรียนหญิงรู้สึกขยะแขยงที่สุด


เหล่าศิษย์หญิงที่มาศึกษาพิณมักจะมีผิวพรรณเปล่งประกายสวยงาม ไม่ต้องการที่จะเสียหน้ามาเถียงกับสัตว์สกปรกผิดปกติทางเพศ กลุ่มศิษย์สาวต่างรวมตัวกันหมดและรอพี่สาวอาวุโสมาจัดการ พวกที่นิสัยเสียทั้งหมดคงถูกโยนออกนอกประตูไป


ดังนั้นแม้จะมีบรรดาเหล่าชายร้ายไร้ยางอายมา ก็มักจะถูกโยนออกมาและถูกไล่กลับไปพร้อมกับข้ออ้างที่ว่าพวกเขาเป็นนักศึกษาที่ต้องการศึกษาพิณอย่างแท้จริงร่วมกับศิษย์หญิงคนอื่นๆ พวกเขาไม่ได้มีความคิดสกปรกใดๆ แต่ก็ไม่ต้องสงสัย มันย่อมเป็นผู้ไร้ยางอายที่ชั่วช้า!


ด้วยเหตุนี้พี่สาวอาวุโสก็กลายเป็นคนไร้ความปรานีมาตลอด เธอติดป้ายที่เขียนเป็นตัวหนาเหนือประตูทางเข้าเขียนไว้ว่า 'ห้ามหมาตัวผู้เข้า"(ห้ามผู้ชายเข้า)


เรื่องนี้กลายเป็นที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดก็ถูกส่งผ่านไปสู่สมาชิกระดับสูงในแผนก ผู้ชายจึงไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยพิณในการเข้าไปในห้องโถง ยกเว้นว่าจะเป็นศิษย์ชายที่เข้ามาภายใต้เงื่อนไขที่เข็มงวดซึ่งจะถูกกำหนดโดยศิษย์หญิงของหน่วยพิณ คนที่มีแววความลามกและความตั้งใจชั่วร้ายถูกไล่ออกทันทีและได้เพิกถอนสิทธิ์ทั้งหมดตลอดไป!


เมื่อเป็นเช่นนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ห้องโถงของหน่วยพิณไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้ชาย


เป็นธรรมดาที่หลินหมิงจะไม่ทราบประวัติของหน่วยพิณและพวกนิสัยเสียๆที่ถูกไล่ออกไป เขามองไปรอบๆสักครู่แต่ก็ไม่พบเครื่องดนตรีที่ทำจากเส้นไหมนภา และเริ่มที่จะเดินเล่นไปยังด้านหนึ่งห้องโถงที่สะสมตำราไว้ หวังว่าบางทีนั่นอาจจะมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาต้องการ


ขณะที่เขาเดินไปนั้น ศิษย์หลายคนเริ่มมองไปที่หลินหมิงที่ยืนอยู่ใกล้ๆชั้นหนังสือ พวกเขากล่าวพร้อมกับเสียงกระซิบ "คนผู้นี้ดูไม่เหมือนว่าจะมาศึกษาพิณ"


"อืมข้าคิดว่าข้าจะเห็นว่าคนพาลเจ้าเล่ห์ถูกเสี่ยวเซียนจัดการในอีกสักครู่"(ผู้แปลค่อนข้างมั่นใจว่าเสี่ยวเซียนคือพี่สาวอาวุโสที่กล่างถึงกันอยู่บ่อยๆ)


"น่าแปลกที่เขายังดูเด็ก เขามองดูราวๆ 15-16 ปี. "


"ฮึ! เดียวนี้เด็ก16ปีแล้วควรจะแต่งงาน ใครบางคนที่อายุน้อยอย่างข้าก็อาจจะเป็นแม่คนแล้วก็ได้"

หญิงสาวที่พูดเป็นเพียงสาวอายุ 17 ปี ในเมืองลิขิตฟ้า หญิงอายุ 18 ปีโดยทั่วไปจะต้องแต่งงานแล้ว ในชนบทพวกเขาก็จะแต่งงานกันเร็วขึ้นไปอีกหนึ่งหรือสองปี ชายที่แต่งงานแล้วอายุ 16 ปีก็ไม่ได้หายากเกินไป


"มันไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา พี่สาวอาวุโสคงจะมาบรรยายในเร็วๆนี้ ถ้ามันมีความคิดสกปรกใดๆ เธอจะรู้ได้ทันทีและจะส่งเขาออกไป. "


หลินหมิงไม่เคยได้ยินการสนทนาเหล่านี้จากเหล่าศิษย์หญิง มิฉะนั้นเขาคงจะไม่ปิดปากเงียบ แน่นอนเขาไม่ได้มองไปที่ป้ายของเสี่ยวเซียน แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาเอาแต่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายเส้นเสียงทำมาจากวัสดุใด!


เขายังคงมองหาข้อมูลเกี่ยวกับเส้นไหมนภา โชคดีที่หน่วยพิณบรรยายในห้องโถงขนาดใหญ่มาก แต่ละด้านจะมีพื้นที่สำหรับการตั้งตำราหนังสือ แต่ละมุมแยกแยะตามความหลากหลายของความรู้ทางดนตรีและประวัติศาสตร์


แน่นอนว่าหลินหมิงไม่ได้สนใจในดนตรีใดๆ ในการค้นหาของเขาในที่สุดก็พบสิ่งที่เขากำลังมองหา! มันเป็นตำราชื่อ'พิณนภา'


'พิณนภา' เป็นสารานุกรมเครื่องดนตรีโบราณทุกประเภทซึ่งรวมถึงต้นกำเนิดของผู้ใช้ ผู้ผลิตวัสดุและความรู้ที่เป็นความลับอื่น ๆ ทั้งหมดที่ถูกอธิบายอย่างละเอียด แน่นอนวัสดุที่หายากเหล่านี้ยังรวมถึงเส้นไหมนภา! หลินหมิงก็ตื่นเต้นเหลือใจและเขาก็เริ่มอ่านด้วยความมุมานะ

'พิณนภา' แนะนำคุณสมบัติของเส้นไหมนภาและวิธีการรวบรวม ตำราเล่มนี้มีข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวคือไม่มีภาพเส้นไหมนภาอยู่ด้วย แต่หลินหมิงก็สามารถที่จะตรวจสอบว่ามันเป็นเส้นไหมนภาที่กำลังมองหาหรือไม่!


หลินหมิงจริงจังในอ่านและไม่ได้ตระหนักถึงศิษย์หญิงทุกคนในห้องขณะที่การบรรยายเริ่มขึ้น ในทางกลับกันเหล่าสาวงามบนแดนสวรรค์นี้ต่างมองดูผู้ชายเพียงคนเดียวในเสื้อผ้าสกปรกของเขา

โชคดีที่หลินหมิงไม่ได้มองไปรอบๆ สมาธิทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือเล่มนี้ แม้ว่าศิษย์หญิงจะคิดว่ามันอาจเป็นการเสแสร้งแต่พวกเธอก็ไม่ได้มีหลักฐานใดๆ ที่พวกเธอจะไล่เขาออก

เดิมทีการบรรยายจะมีการดำเนินการได้อย่างราบรื่น แต่ด้วยการดำรงอยู่ของพี่สาวอาวุโสแห่งหน่วยพิณที่เต็มไปด้วยอคติอย่างมากกับเพศชาย!


ในแวดวงสังคมของหนุ่มขุนนางนักสู้ ชื่อพี่สาวอาวุโสเป็นเหมือนสายฟ้าที่ดังก้องอยู่ในหูของพวกเขาและทำให้เกิดความเดือดร้อนขึ้นในหัวใจของพวกเขา ป้ายที่เขียนว่า"ห้ามหมาตัวผู้เข้า'เป็นตัวหนังสือที่แสดงถึงการดูถูกจากพวกเธอ ทำให้พวกเขารู้สึกถึงความเจ็บปวดของการเสียหน้ากับเหล่าศิษย์หญิง ! พวกเขาต่างสาปแช่งให้เธอขึ้นคานสำหรับช่วงชีวิตที่เหลือของเธอ!


ในความเป็นพี่สาวอาวุโสคือความงามในหมู่ความงาม เธอเป็นคนที่อายุประมาณ 20 ปีและมีใบหน้ารูปไข่ที่สมบูรณ์แบบด้วยสัดส่วนที่น่าหลงใหล สูง และต้นขาเรียวสูง

มันช่างน่าเสียดายที่พี่สาวอาวุโสไม่เคยแสดงความสนใจใดๆต่อผู้ชายและมักจะรู้สึกหงุดหงิดกับอารมณ์ได้อย่างง่ายดาย ผู้ชายคนไหนที่กล้าที่จะจ้องมองความงดงามของนางจะถูกเตะอย่างรวดเร็วไปที่ระหว่างขาของพวกเขา! (ใครมองที่นี่จุกไปอีกนาน)


หลังจากพี่สาวอาวุโสมาถึงเธอสังเกตเห็นหลินหมิงในทันที! คิ้วของเธอเหี่ยวย่นในทันใด เธอวางลงพิณของเธอและมายืนด้านหน้าของเขา เธอทุบฝ่ามือลงบนโต๊ะทำงานสามครั้งและถามเขาว่า "แกเข้ามาได้ยังไง?"

น้องไข่ โป๊ะแตก : อีห่า ! แกเข้ามาได้ยังไง ? จบ! มึงต้องต่อสิเห้ย ... เมียมาแล้วเนี่ย จัดสิจัด.
คนแปล : กุแปลให้มึงตั้งแต่ 3 ชม. ที่แล้ว มึงพึ่งมาลงกูยังไม่บ่นซักคำ
น้องไข่ โป๊ะแตก : .... เรื่องนี้ไม่ต้องบอกคนอ่านก็ได้มั้ง ?