วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทที่ 12 : คำเชิญจากฉินชิงหวน

บทที่ 12 คำเชิญจากฉินชิงหวน


เป็นคำถามที่ยากเหลือเกิน วัสดุเหล่านั้นเมื่อนำมารวมกันด้วยความหลากหลายที่แตกต่างกัน เมื่อมาอยู่ในมือผู้เชี่ยวชาญการจารึก พวกเขาสามารถวาดอักขระจารึกลงไปได้มากมาย!


เทคนิคการจารึกมีสาย 3600 อักขระพื้นฐานและ 4900 สัญลักษณ์พื้นฐาน ด้วยปริมาณของอักขระและสัญลักษณ์เหล่าเมื่อนำมารวมกันเป็นความหลากหลายทางพีชคณิต ทำให้มีการเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา


การ 'ช็อก' เพียงอักขระหนึ่งใน 3600 ชนิดของอักขระพื้นฐาน


หลินหมิงรู้จักการ 'ช็อก' ซึ่งเป็นอักระพื้นฐาน แต่ในความเป็นจริง อักขระพื้นฐานไม่ได้มีอยู่เพียง 3600 แต่มีถึง 6000 ประเภทที่แตกต่างกัน มันเกือบจะเป็นสองเท่าของที่ผู้เชี่ยวชาญการจารึกแห่งทวีปนภารินไหลครอบครอง


แต่มันก็เป็นเช่นเดียวกับเส้นไหมนภา หลินหมิงไม่แน่ใจว่าการ'ช็อก' รั่วไหลในทวีปนภารินไหลเป็นเช่นเดียวกับในดินแดพระเจ้า หรือไม่ เขาทำได้เพียงคาดหวังให้มันไม่แตกต่างกันมากจนเกินไป พระองค์ทรงเหยียดพระหัตถ์ขวาของเขาและสาระสำคัญที่แท้จริงรวมกันบนนิ้วของเขา ด้วยมือของเขาเขาดึงชุดของเส้นที่ยอดเยี่ยมในอากาศ พวกเขาเรืองแสงด้วยไฟเงียบและงดงามและในที่สุดก็รวมตัวกันเป็นแผนภาพที่ซับซ้อนที่ส่องในด้านหน้าของฉินชิงหวน และ จ้องมองพี่อาวุโส


หลินหมิงได้ฝึกฝนการจารึกเหล่านี้ทุกวันร่วมกับความทรงจำจากชิ้นส่วนจิตวิญญาณและในที่สุดมันก็เริ่มผสานเข้าด้วยกัน ผลลัพธ์ของมันมีประโยชน์มากทีเดียว


หลินหมิงถามขึ้น "นี่เป็นคืออักขระ'ช็อก'ที่พูดถึงใช่หรือไม่?"


ฉินชิงหวนจ้องด้วยความตกตะลึงขณะพี่สาวอาวุโสมองไปที่ฉินชิงหวนและสังเกตเห็นการแสดงออกของเธอ เธอเข้าใจในทันทีว่านี้หนุ่มอันธพาลไม่ได้เล่นตลกด้วยนิ้วของเขา แต่ได้วาดอักขระ'ช็อก'ที่สมบูรณ์ไร้ซึ่งข้อผิดพลาด! เรื่องบ้าอะไรกัน!หนุ่มบ้านนอกนั้นเข้าใจเทคนิคการจารึกได้อย่างนั้นรึ?! มันไม่ได้เป็นแค่คนตอแหลหลอกลวง?


ในใจของฉินชิงหวนรู้สึกประหลาดใจอย่างแท้จริงและพยายามที่จะไม่เปิดเผยอารมณ์ของเธอ มีอักขระพื้นฐาน 3600 ชนิดและมันเป็นเรื่องยากที่ผู้ฝึกหัดจะสร้างมันออกมาได้อย่างสมบูรณ์ มันก็น่าแปลกอยู่แล้วที่หลินหมิงสามารถสร้างมันออกมาได้ แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าก็คืออักขระ'ช็อก'ของเขามันถูกต้องสมบูรณ์แบบ พลังงานที่ถูกวางไว้ในจุดที่เหมาะสมและมันช่างเป็นเรื่องที่อัศจรรย์ยิ่ง เพียงความเพียรพยายามในการฝึกฝนไม่คงไม่อาจทำได้ถึงเพียงนี้!


ด้วยความตกใจของเธอ เธอค่อยๆพูดขึ้น "มันคือ... "


หลินหมิงกล่าว " 'ช็อก' รูปแบบอักขระแห่งการฆ่าฟัน การใช้งานโดยทั่วไปจะมีการวางมันอยู่บนอาวุธ เมื่อนักสู้ใช้อาวุธเขาจะมีสมาธิและประสาทสัมผัสในการรับรู้มากขึ้น และพลังงานจะถูกนำมาใช้ในการต่อสู้เพื่อเอาชนะศัตรู แต่ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นก็มีอยู่อย่างจำกัด ถ้าอักขระ'ช็อก'วางอยู่บนอาวุธ เมื่อนักสู้ส่งพลังงานของเขาเข้าไปในอาวุธที่มีอักขระ'ช็อก' จะสร้างแรงสั่นสะเทือนความเร็วสูงซึ่งจะเป็นการเพิ่มอำนาจทะลุทะลวงอย่างรุนแรงให้กับอาวุธ... "


หลินหมิงอธิบายอักขระ'ช็อก'ได้อย่างง่ายๆ ให้ฉินชิงหวนฟัง ถ้าเขาสามารถที่จะวาดอักขระ'ช็อก'ได้แล้วแน่นอนว่าเขาต้องรู้หลักการที่อยู่เบื้องหลังมัน! มันจะแปลกมากที่เขาจะไม่รู้!


จิตวิญญาณที่รักในการแข่งขันฉินชิงหวนก็เกิดการกระตุ้น! เธอไม่อาจปล่อยให้เขาเอาชนะเธอ! เธอถามเขาต่อว่า "แล้วเจ้ารู้จักและวาดสัญลักษณ์'ธง'และอธิบายหลักการของมันได้หรือไม่ เธอเลิกถามถึงเรื่องขั้นต้นที่ค่อนข้างง่ายและถามถึงสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น แต่เรื่องแค่นี้ไม่สามารถสร้างความสับสนให้หลินหมิงได้! ในความเป็นจริงหลินหมิงมีความเข้าใจในสัญลักษณ์พื้นฐานหลากหลายและลึกซึ้งยิ่งกว่าที่ทวีปนภารินไหลจะค้นพบเสียอีก


เขาทำสมาธิเริ่มวาดสัญลักษณ์ 'ธง' ขึ้นมาในอากาศ แม้ว่าสัญลักษณ์นี้จะซับซ้อนแต่นิ้วของเขาไม่ได้หยุดชะงักแม้เพียงน้อยนิดและในพริบตาสัญลักษณ์จารึกที่ซับซ้อนก็ปรากฏขึ้นในอากาศ


ตอนนี้แม้แต่ฉินชิงหวนก็ยังหวาดหวั่น สัญลักษณ์พื้นฐานที่ซับซ้อนขนาดนั้น และยิ่งยากที่จะวางพลังงานในสัญลักษณ์ให้สมบูรณ์ แต่หลินหมิงกลับทำมันได้อย่างง่ายดาย นี้มันแน่อยู่แล้วว่าเขาไปไกลเกินกว่าฉินชิงหวน!


โอ้วพระเจ้า นี้มันอัจฉริยะ! ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเด็กหนุ่มแสนธรรมดาผู้นี้จะเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะในเรื่องความสามารถในการจารึก!


แต่ผู้ที่จะสอนมันให้เขาจะเป็นใครหละ ? รูปร่างหน้าตาของเขาบอกว่าเขาไม่ได้มาจากตระกูลขุนนางใหญ่ มันเป็นไปได้ที่เขาจะมีนักปราชญ์โบราณหรือฤาษีที่ชอบอาศัยอยู่ในภูเขาลึกๆและเงียบสงบเป็นอาจารย์?


ฉินชิงหวนพบว่าหลินหมิงนั้นเต็มไปด้วยปริศนาและเธอยังคงทดสอบเขาต่อ สิ่งที่เขาแสดงออกมาทำเธอรู้สึกประหลาดใจ!แต่เขาทำมันได้อย่างง่ายดาย! มีขักขระ3600ชนิดและสัญลักษณ์4900ชนิด รวมแล้วกว่า 8000 ชนิดที่แตกต่างกันและราวกับว่าเขาคุ้นเคยกับพวกมันเหมือนแขนขาของเขาเอง!


เมื่อเทียบกับความประหลาดใจฉินชิงหวน พี่สาวอาวุโสยิ่งตกตะลึงเสียยิ่งกว่าและยังคงสับสนอยู่ในขณะที่ทั้งสองนักจารึกพูดคุยกันซึ่งมันดูเหมือนจะเป็นภาษาที่แตกต่างกับภาษาที่เธอจะเข้าใจได้ แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงประหลาดใจและความชื่นชมของชิงหวนที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ


พี่สาวอาวุโสเข้าใจชิงหวนเป็นอย่างดี ฉินชิงหวนมักแสดงออกถึงความหรูหราและเย็นชาเสมอ! เธอได้รับความเคารพจากทุกคน ด้วยพรสวรรค์ระดับหกและความแข็งแรงอันยิ่งใหญ่ของเธอ เธอจึงมีจิตวิญญาณที่เย้อหยิ่ง ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยประเมินใครในรุ่นเดียวไว้สูงมาก่อน


ในที่สุดพี่สาวอาวุโสก็รู้สึกเฉยชา เธอเข้าใจสิ่งหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะยึดบัตรผ่านจากเด็กคนนั้น!


บ้าเอ๊ย! ที่เธอทำคือความผิดพลาดครั้งใหญ่! เธอกระทืบเท้าของเธอบนพื้น! เด็กบ้านนอกคนนี้มีความสามารถในการจารึก!


พี่สาวอาวุโสแทบจะเป็นบ้า!


ฉินชิงหวนค่อยๆยำเกรงเขามากขึ้น ในการสนทนากับหลินหมิง ความรู้เรื่องสัญลักษณ์และอักขระทั้งเรื่องของการวางพลังงานในสิ่งเหล่านั้นของเธอมีแนวโน้มขยายขีดจำกัดเนื่องจากความเข้าใจและความลึกซึ้งในความรู้ของเขาที่แสดงออกมา มันเป็นความรู้สึกที่ดีและมีค่า


ฉินชิงหวนสามารถยืนยันข้อสงสัยของเธอได้ว่าหลินหมิงมีพรสวรรค์ที่หาได้ยากที่อาจจะพบเจอได้เพียงคนเดียวในรอบหนึ่งศตวรรษ แต่เบื้องหลังของเขานั้นลึกลับยิ่งนัก! ผู้ที่สอนเขาคือใครกันแน่ อาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญการจารึกที่เก่งกาจและมีอำนาจ! แม้จะเทียบกับอาจารย์ของเธอก็เหมือนเปลวเทียนเทียบกับดวงอาทิตย์!


เธอไม่อาจคาดเดาถึงแหล่งกำเนิดแห่งภูมิปัญญาของชายหนุ่มผู้นี้ได้เลย


ฉินชิงหวนมีความสนใจหลินหมิงอย่างมาก แต่ไม่ได้หมายถึงการสนใจในตัวเขาเอง สิ่งที่เธอจะได้ประโยชน์ก็คือการเชื่อสัมพันธ์ที่ดีกับอาจารย์ลึกลับที่อยู่เบื้องของเขา มันมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับตระกูลฉิน!


ด้วยความคิดนั้น ฉินชิงหวนกล่าวว่า "ตอนนี้เป็นเวลาในการเรียนพิณข้าขอโทษที่ทำให้เสียเวลา แต่มันเป็นสิ่งที่วิเศษมากที่เราได้สนทนากันในวันนี้ ให้ข้าได้ชดเชยเวลาที่เสียไป ถ้าเป็นไปได้หลังจากการบรรยายพิณจบแล้ว ข้าชิงหวนอยากจะขอเชิญเจ้าไปร่วมทานอาหารที่ศาลาจันทร์กระจ่าง ... เพื่อแลกเปลี่ยน... หลักการและเทคนิคในการจารึกซึ่งกันและกัน จะเป็นที่น่าพอใจสำหรับเจ้าหรือไม่ "


ด้วยเสียงหวานไพเราะเพราะพริ้งของฉินชิงหวนซึ่งโน้มน้าวใจเป็นอย่างมาก ควบคู่ไปกับการแสดงออกอย่างจริงใจและความน่าหลงใหลของเธอ มันเป็นเรื่องที่จะมีผู้ชายคนไหนกล้าปฏิเสธ


ความจริงแล้วหลินหมิงไม่ได้ต้องการที่จะปฏิเสธเธอ ไม่เพียงเบื้องหลังของฉินชิงหวนจะน่าประทับใจและตัวเธอเองยังงดงามหาหญิงใดเปรียบ เป็นเรื่องยากที่เธอจะเอ่ยปากเชิญใครซักคนก่อน และเธอก็เป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะปองร้ายใดๆ


อย่างไรก็ตามหลินหมิงมีเวลาจำกัดเพียงสามเดือนในการทดสอบเข้าสำนักเจ็ดแก่นแท้ ทั้งเขายังต้องการที่จะสร้างรายได้จากเทคนิคการจารึกเพื่อไปซื้อโอสถที่เขาต้องการและจากนั้นก็ฝึกฝนการจารึกโอสถและฝึกฝนกายภาพของตัวเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งหมดเพื่อที่จะเข้าสู่สำนักเจ็ดแก่นแท้


แม้ว่าเขาจะเข้าไปในสำนักเจ็ดแก่นแท้ได้แล้วเขาก็ยังต้องมีความแข็งแรง ยังคงมีไอ้หน้าหมาจู้ยันที่เป็นเป๋าหมายในการต่อสู้ หากเขาไม่ได้เพิ่มความแข็งแกร่งของเขาแล้วเขาไม่อาจที่จะสู้กับจู้ยันได้ และอาจกลายเป็นเรื่องน่าอนาถ!


หลินหมิงไม่สนใจที่จะในหน่วยพิณอีกต่อไป แล้วไปรับประทานอาหารกับสาวงามแทน หลังมื้ออาหารพวกเขายังคงพูดคุยถึงที่อยู่ของกันและกัน และได้แลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อกัน สำหรับฉินชิงหวน เธอได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเธอ แต่สำหรับหลินหมิงเขาไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเลย! หลังจากที่พวกเขาแลกเปลี่ยนความรู้กันกลับเป็นฉินชิงหวนที่ได้หยิบทุกความรู้ที่เธอมีมาแบ่งบัน แต่กลับไม่มีเรื่องใดเป็นความรู้ใหม่สำหรับหลินหมิงเลย!


หลินหมิงแอบผิดหวังเล็กน้อยและกล่าวว่า "ข้าเสียใจนะ แต่วันนี้ข้ามีบางสิ่งบางอย่างจะต้องทำ ข้อต้องขอตัวกลับก่อน"


"โอ้ ... ดี ... มันก็ควรได้เวลาแล้ว" ฉินชิงหวนกล่าวด้วยความเสียใจและแก้มของเธอมีสีแดงจางๆ เธอได้เชิญเขามาและเขาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ในความเป็นจริงตั้งแต่เธอยังเด็กๆ ฉินชิงหวนไม่เคยเชิญชายใดมาร่วมทานอาหารด้วยแม้แต่ครั้งเดียว! เธอมักจะได้รับคำเชิญจากผู้อื่นนับไม่ถ้วน! ซึ่งทั้งหมดนั้นเธอปฏิเสธไปนานๆครั้งอาจตอบรับบ้างสำหรับเพื่อนสนิทของเธอ ปกติเมื่อเธอได้ปฏิเสธคำเชิญจากคนอื่นๆเธอไม่มีความรู้สึกอะไรต่อมัน แต่เวลานี้เธอเป็นคนหนึ่งที่เหมือนถูกปฏิเสธและเธอก็ได้รู้ว่ารสชาติของการปฏิเสธมันขมขื่นมากเพียงไร แต่สำหรับหัวใจของเธอ ก็ยังเป็นเพียงหัวใจของเด็กสาวอายุ 15 ปีธรรมดา!


การปฏิเสธของหลินหมิง ทำให้หัวสมองของพี่สาวอาวุโสถึงจุดเดือด เธอเกือบจะวิ่งไปตบเขาให้รู้แล้วรู้รอด แต่เธอก็ทำได้เพียงแค่ในความคิด! ผู้ชายคนนี้ ... ผู้ชายคนนี้กล้าปฏิเสธฉินชิงหวน !


(การขอตัวกลับกลางคันก็เหมือนกับการปฏิเสธ)


โอ้พระเจ้า!


เขากล้าทำลงไปได้อย่างไร!?


เขาเป็นผู้ชายประเภทไหนถึงกล้าทำเช่นนี้!? 

 

น้องไข่ โป๊ะแตก : ผู้ชายดีๆแบบกูนี่แหละที่กล้าทำเช่นนี้