วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทที่ 7 : กำเนิดความแข็งแกร่งของพระเจ้า



บทที่ 007 กำเนิดความแข็งแกร่งแห่งพระเจ้า!!!
แปล : Artza
แก้ไขและเรียบเรียง : น้องไข่ โป๊ะแตก


วิธีการโจมตีที่แข็งแกร่งของ 'จุดสูงสุดแห่งความโกลาหล' ที่หลินหมิงฝึกไม่ได้โจมตีด้วยดาบ ทว่าเป็นการจู่โจมด้วยกำปั้น!


ปัจจุบันกำลังหมัดของหลินหมิงแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถทำให้เกิดรอยแหว่งครึ่งฟุตลึกลงใบเหล็กต้นไม้ ความทนทานของต้นไม้เหล็กนั้นไม่ด้อยกว่าเหล็กจริงๆเลยแม้แต่น้อย หากวัตถุที่เขาชกใส่คือหิน มันก็จะแตกเป็นเสี่ยงๆอย่างง่ายดาย!


หลินหมิงเพ่งสายตาไปยังหวังยี่เกา สายตาของเขามุ่งลงบนหน้าอกของมัน โน้มตัวไปด้านข้าง และออกหมัดในพริบตา!
" ปึก"


เกิดเสียหนักๆดังขึ้น หวังยี่เกาถ่มน้ำลายปนเลือดออกมาจากปาก แม้จะมีการป้องกันของเกราะเบาและการฝึกฝนกายภาพขั้นที่สอง เขาก็ยังไม่สามารถที่ทนรับแรงชกจากหลินหมิงได้


เมื่อมองดูหวังยี่เกาล้มลงไปบนพื้นเหมือนหมูที่ตายแล้ว ผู้เข้าชมโดยรอบพูดกันสนุกปาก หวังยี่เกาขู่จะจัดการหลินหมิงในสามกระบวนท่า แต่ผลที่ได้กลับตรงข้ามอย่างสมบูรณ์ หลินหมิงจัดการหวังยี่เกาได้ในสามกระบวนท่า!


เพียงแค่แลกเปลี่ยนวรยุทธสามกระบวนท่า ก็จบลงด้วยการที่หลินหมิงเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ หากไม่ได้เกราะเบาแล้วหละก็หวังยี่เกาคงถูกจัดการตั้งแต่มีดแรกแล้ว ด้วยการต่อสู้ระหว่างระดับกายภาพขั้นแรกและขั้นที่สอง ผลการต่อสู้มันดูเหมือนตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง! (ประมานว่าเหมือนหลิมหมิงอยู่ขั้นสองสู้กับหวังยี่เกาอยู่ขั้นแรกเสียมากกว่า)
"ผู้อาวุโสหลิว ท่านคิดเห็นอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้" ท่ามกลางฝูงชน ชายสูงอายุคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในหมู่ผู้ชม เขามีการฝึกฝนกายภาพขั้นดัดกระดูก(ขั้นห้า) อีกเพียงก้าวเดียวก็จะเข้าสู่ขั้นผสานชีพจร(ขั้นหก) แต่เขาล้มเหลวช่วงสุดท้าย ธรรมชาติของร่างกายของเขาไม่สามารถทนต่อการก้าวไปต่อได้เป็นเพราะอายุของเขา ตอนนี้ผู้อาวุโสหลิวมีอายุเกินเจ็ดสิบขึ้นไปแล้วเขาไม่อาจมีความแข็งแก่รงดังเช่นวัยหนุ่มๆ แต่สายตาของเขายังคงไว้ซึ่งความฉลาดเฉลียว


ในขณะที่ผู้สูงอายุครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบ "เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ เขามีความแข็งแกร่งแห่งพระเจ้า!"


พรสวรรค์ของนักสู้ ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ขั้นหนึ่งหรือสองเป็นเพียงตัวชี้วัดของความเร็วและความเข้ากันได้ของร่างกาย ทำให้พวกเขาสามารถดูดซับพลังและฝึกฝนได้เร็วขึ้น พวกเขาสามารถซึมซับพลังงานจากวรยุทธ์ได้มากขึ้นเมื่อมีพรสวรรค์ที่สูงขึ้น


อย่างไรก็ตามความแข็งแก่รงของร่างกาย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ พรสวรรค์เป็นเพียงสิ่งที่ช่วยให้ฝึกฝนได้เร็วขึ้นเท่านั้น(หากมีพรสวรรค์ที่ดีขนาดไหนแต่ไม่ฝึกก็เป็นเพียงคนธรรมดา)


แม้ว่าบางคนจะเกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งของพระเจ้า มีความแข็งแกร่งเป็นสิบเท่าของคนปกติหรือมากกว่านั้น!


เป็นความแข็งแก่รงที่มาพร้อมความเร็วที่ยอดเยี่ยม เป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะได้เปรียบในการต่อสู้


แต่จำนวนของคนที่มีพรสวรรค์เหล่านี้มีน้อยยิ่งนัก นอกจากนี้ยังมีไม่มากที่จะประสบความสำเร็จเนื่องจากทุกขั้นในการฝึกฝนมีช่องว่างมหาศาล



"นั่นคือสิ่งที่เด็กนั่นมี... " ผู้สังเกตการณ์โดยรอบพยักหน้าหน้าของพวกเขา คำอธิบายนี้เป็นที่เหมาะสมมาก


หลินหมิงหยิบมีดของเขาและเดินไปยังหวังยี่เกา ปัจจุบันหวังยี่เกาอยู่ในสภาพที่อนาถ เสื้อผ้าของเขาได้กลายเป็นแถบผ้าสีเลือดที่รั่วไหลออกมาจากปากและใบหน้าถูกปกคลุมด้วยสิ่งสกปรก หวังยี่เกาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการฆ่าตัวตาย เขาจะได้หายไปอย่างสมบูรณ์ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เขามีแนวโน้มที่จะกลายเป็นตัวตลกในหมู่เพื่อนของเขาที่อยู่ในเมืองลิขิตฟ้า


หลินหมิงพูดขึ้น "ก่อนหน้านี้เจ้าเป็นคนกล่าวมันเอง 1000เหรียญทอง ส่งมันมา!!!"
เหอะ!


ได้ยินคำพูดเหล่านั้นหวังยี่เกา แทบจะกะอักเลือดออกมาอีก


อือหือไอ้ลูกหมา! ข้าจะทำอย่างไร? ข้าจะต้องจ่าย1000ทองจริงๆรึ?แม้ว่าหวังยี่เกาจะเป็นลูกของตระกูลดีมีฐานะ การจะจ่าย1000เหรียญทองก็มิใช้เรื่องเล็กๆ!


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้แน่นอนว่าเขามีความสุขและช่างน่าจดจำที่สุดในชีวิตของเขา คนจำนวนมากเป็นพยานหวังยี่เกาไม่อาจจะกลับคำพูดของมันได้


นอกจากนี้ตั้งแต่มันตกลงรับการท้าประลอง มันไม่ได้คิดเกี่ยวกับการสูญเสียทรัพย์หรือชื่อเสียงที่จะถูกถูกเยาะเย้ยโดยฝูงชนทั้งหมด



"ทอง!!ไปนำมาทองมา!" หวังยี่เกาตะโกนใส่คนของมัน! วันนี้มันต้องยอมรับการสูญเสีย แต่นี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุด มันสาบานมันจะต้องสับหลินหมิงชิ้นให้ได้!


กลุ่มของฝูงชนต่างก็ตกใจในชัยชนะหลินหมิง แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะขึ้นไปปล้นหลินหมิง รับประกันได้ว่าพวกเขาไม่มีทางชนะไปได้! พวกเขาเป็นเพียงผู้ฝึกฝนกายภาขั้นแรก?


"เซี่ยวตง รวบรวมทอง!!!" หลินหมิงกล่าว 1000เหรียญไม่ใช่จำนวนน้อยๆ แม้ว่าหวังยี่เกาจะร่ำรวย มันก็ไม่ได้พกทองติดตัวมากขนาดนั้น ดังนั้นมันจึงสั่งผ่านคนของมัน


ช่วงเวลานี้หวังยี่เกาอาเจียนเลือดออกมา หลินเซี่ยงตงตกตะลึงอยู่นาน หลังจากหลินหมิงบอกกับเขา เขาพึ่งจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง: โอ้พระเจ้า! นี้เรื่องจริง? เราชนะมันได้?นอกจากนี้พวกเขาได้รับ1000เหรียญทอง!


1000เหรียญทอง!!!!!


ทั้งชีวิตของหลินเซี่ยงตงของทุกชิ้นของเขารวมกันได้เพียง200เหรียญทอง ซื้อโสมเลือดอันเดียวยังต้องใช้เงินหมดไปกว่าครึ่งของมันของมัน!(มี200แม่งซื้อโสมเลือด[ร้อยปี]150เหรียญทองให้หลินหมิง เหลือแค่50เหรียญไปซื้ออาวุธ555 ส่วนโสมเลือด[สองร้อยปี]ราคา300เหรียญทอง)
มองไปที่ทองในมือของเขา หลินเซี่ยวตงถึงกับช็อก จากนั้นก็กลายเป็นความปีติยินดีก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ


ดวงตาของเขาไม่เคยเปิกกว้างถึงเพียงนี้มาก่อน ตอนนี้ว่าเขากำลังยิ้มกว้างดวกตาเต็มไปด้วยประกาบแพรวพราว


"ฮ่าๆ เรารวยแล้ว พวกเรารวยแล้ว!" มันแสดงท่าทีเกิดกว่าจะบรรยายออกมาได้!! "ขอบคุณสำหรับเงินทองเหล่านี้ เราอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากจำเป็นต้องใช้จ่ายสูงมาก ขอบคุณที่ชวยรวบรวมมาให้ ขอบคุณมาก "(พูดประชดพวกหวังยี่เกา)


"โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านหวังยี่เกา เจ้ารู้ซึ้งดีว่า800เหรียญคงไม่เพียงพอและได้มีการเพิ่มมันเป็น1000เหรียญทอง ต้องขอบคุณเป็นอยากมาก ยี่เกาหวัง* ฮ่าๆ "หลินเซี่ยวตงเยาะเย้ย (*อ่านชื่อกลับหลังเป็นการดูหมิ่น)



ได้ยินคำพูดเหน็บแนมจากหลินเซี่ยวตง หวังยี่เกาที่บาดเจ็บสาหัสถ่มน้ำลายออกมาพร้อมกับเลือด
พ่อตาแกตายรึ!!(อุทานเป็นเสียงในปาก)
หวังยี่เกาขบฟันของเขา ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวไปมาก ในขณะนั้นหลินเซี่ยวตงไม่ได้คิดที่จะสนใจ ทั้งยังทำหน้าขยะแขยงใส่มันอีก หลังจากเก็บทอง หลินเซี่ยวตงถุยน้ำลายในลักษณะโอ้อวดและเริ่มนับทองกองหนึ่งทีละเหรียญ


"ยี่สิบ สามสิบ ห้าสิบ, ร้อย ห้าร้อย เจ็ดร้อย ... "


หลินเซี่ยวตงนับทองกองใหญ่ สามครั้งแล้วกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มและเหล่ตา "850เหรียญ ขาดไป150เหรียญ ที่นี่มีผู้คนมากมาย? มันเป็นวิธีการที่ไม่ดีเลยที่พวกเจ้าจะขาดตกบกพร่องแม้แต่เล็กน้อย? "


ได้ยินคำพูดของหลินเซี่ยว หวังยี่เกาเกือบอาเจียนเลือดออกมาอีกครั้ง ใบหน้าของเขาจมลึกเขาเอามือข้างขวาจับดาบของเขาและ "ฉึก" เสียงดังเกิดขึ้น ดาบยาวของเขาแทงลงบนผืนดิน "ดาบเล่นนี้สามารถขายได้200เหรียญทองในร้านค้าอาวุธทั่วไป พวกเรากลับ! "


พวกเขาทั้งหกไม่สามารถแก้แค้นเพื่อชื่อเสียงได้ แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องสูญเสียทรัพย์สินของพวกเขาทั้งหมดแม้แต่ดาบเล่มโปรดของเขา ผู้คนที่นี่เริ่มสงสารหวังยี่เกาเป็นครั้งแรก!


เมื่อเห็นดาบเขียวขจี หลินตงยิ้ม เขามีความรู้บางประการเกี่ยวกับอาวุธและดาบเขียวขจีเป็นอาวุธที่พิเศษ อย่างน้อยมันก็จะถูกใช้ประโยชน์ได้มากกว่าเจ้าของเก่าของมัน



หลินหมิงกล่าวว่า "ถ้าเจ้าชอบเจ้าเอามันไปก็ได้"


หลินเซี่ยวตง ตอบอย่างเกรงใจ "ข้าทำไม่ได้หรอก พี่หมิง พี่เองก็ยังไม่มีอาวุธเลย"


หลินหมิงตอบ "กำปั้นคืออาวุธของข้า ตอนนี้ข้าไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธอันใด ต่อไปข้าจะได้รับหาอาวุธที่เหมาะกับข้าเอง ดาบเขียวขจีนี้จะมีน้ำหนักเบาเกินไปสำหรับทักษะต่อสู้ของข้า "


ก่อนที่หลินเซี่ยวตงจะทันได้ถามอะไรอีก หลินหมิงก็โยนดาบมาแล้วบอกว่า"ดาบนี้คงเหมาะกับเจ้ามากกว่า"


"'งั้นก็ดี ฉันจะใช้ดาบนี่เอง แต่พี่แน่ใจนะว่าพี่ไม่ต้องการมัน ข้าไม่เคยเห็นลักษณะการฝึกฝนของพี่เลย "นับตั้งแต่หลินหมิงเริ่มฝึกฝนการต่อสู้ หลินเซี่ยวตงไม่เคยเห็นฝึกของหลินหมิง เมื่อเขาจะได้รู้ว่าหลินหมิงมีความแข็งแก่รงเพิ่มสูงขึ้นไป เขาก็เชื่อว่านี้จะเป็นผลจากการฝึกฝนอย่างหนักของหลินหมิง



หลินหมิงอธิบาย "หวังยี่เกาไม่ได้มีความเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเขาเองและพึ่งจะเข้าสู่การฝึกฝนกายภาพขั้นสองได้ไม่นาน นอกจากนั้นยังขาดพื้นฐานประสบการณ์ ระดับในการฝึกฝนของมันคงเป็นเพราะยา แม้ข้าจะไม่มีทักษะต่อสู้ข้าก็เอาชนะมันได้ไม่ได้เป็นความภาคภูมิใจอะไรเลย เป้าหมายต่อไปคือจู้ยัน "


จู้ยันแตกต่างจากหวังยี่เกา จู้ยันมีความแข็งแก่รงมากและเข้าใจพื้นฐานอย่างถ่องแท้ มีพรสวรรค์ขั้นสี่ นอกจากนี้เขายังฝึกฝนอย่างหนัก ดังนั้นในปัจจุบันหลินหมิงยังไม่มีโอกาสเอาชนะจู้ยันได้


หลินหมิงเดินไปหาทองแล้วแบ่งมันออกและส่งทองฝั่งหนึ่งให้เซี่ยวตงโดยไม่ต้องนับ "ใช้นี้สิ"


"พี่ทำอะไร? ทองทั้งหมดนี้เป็นของพี่ ข้าได้รับดาบมาแล้ว ข้าไม่มีความต้องการทองอีก ข้าใช้เพียงแค่10เหรียญเป็นค่าฝึกฝนต่อเดือนเท่านั้น "


หลินหมิงยังคงเงียบและไม่ได้คัดค้าน เขาเก็บค่าทองไปในอกของเขาเอง ระหว่างเขาและเซี่ยวตง เซี่ยวตงมีทองพอใช้ในการใช่จ่ายที่จำเป็นอยู่แล้ว



"เยี่ยม เป็นธรรมแล้ว"


"ใช่แล้ว! ตอนนี้เรามีเงินทุน1000เหรียญทอง! ข้าผู้นี้ไม่เคยเห็นเงินทองมากมายขนาดนี้มาก่อน เวลานี้ข้าจะใช้มันได้อย่างมันมือ! "


น้องไข่ โป๊ะแตก : เวรกำทำไมจบไม่ค้างแบบนี้หละ ?